นั่นสิ..
บางครั้งเราคิดว่าใครบางคนที่เดินเข้ามาในชีวิต เค้าเปลี่ยนไป
จริงๆแล้วเค้าเปลี่ยนไปจริงๆ
หรือ
เราเองต่างหากที่ได้มองเค้าในองศาที่ต่างไปทำให้เห็นว่าเค้าไม่เหมือนเดิม
แต่ยังไงก็ไม่มีอะไรคงอยู่สภาพเดิมได้ตลอดไป
ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง
สิ่งๆเดียวกัน คนๆเดียวกัน ณ ปัจจุบัน ไม่เหมือนกับสิ่งๆนั้น คนๆนั้นในอดีต
สิ่งๆเดียวกัน คนๆเดียวกัน ในอนาคต ก็จะไม่เหมือนกับสิ่งๆนี้ คนๆนี้ ณ ปััจจุบัน
ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติของมัน
เราแค่ต้องอยู่กับปัจจุบันใช่มะ
12 comments:
ที่มาภาพ: http://larndham.net/index.php?showtopic=16266&st=27
นั่นสิ :)
Living the current moment, knowing the possibility of change in the future. :)
Thank you for the good article ka'
life is make other happy.
แล้วมันจะขึ้นกับว่าเราเอามุมไหนของเรามองด้วยไหม? เพราะเราเองก็มี 360 องศาด้วยหรือเปล่า? บางทีเรายังมองเรื่องเดียวกัน แต่ต่างเวลากัน เรายังคิดไม่เหมือนกันเลย ไม่ใช่เพราะว่าใจเราโลเล หรือเปล่า หรือที่จริงเราไม่ได้เปลี่ยนใจมอง แต่เราเปลี่ยนองศาตัวเราในการมองเรื่องนั้นๆ
เขียนเองยังงงเอง สงสัยมัวหมุน 360 องศาเขียน
Perhaps, I think too much:P
p'aom เพลงเพราะอะค่ะ เพลงอะไรค่ะ :)
น้ำตาล :) "นั่นสิ" เป็นคำที่เรานึกในใจเหมือนกันตอนอ่านข้อความบนภาพจบครั้งแรก :P
น้องกวาง :) thank you จ้ะ สรุปออกมาเป็นประโยคสั้นๆได้ใจความครบถ้วนมากๆ :D
ดีเจปืน :) ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ "ผู้ให้ย่อมเป็นสุข และผู้ให้ย่อมไม่เป็นผู้ขาด" รวมถึงการให้ความสุขแก่ผู้อื่นด้วยค่ะ :)
พี่ผึ้ง :) พี่ผึ้งมองรอบด้านจริงๆค่ะ :P ก็อาจจะจริงนะคะ.. แต่อ้อมรู้สึกว่าข้อความข้างบนเค้าเน้นว่า ที่เรารู้สึกว่าคนที่เรามองเปลี่ยนไปเนี่ย จริงๆเพราะเค้าหันมุมที่เราไม่เคยเห็นมาให้เราดูรึป่าว.. แต่ถ้าตัวเราเองเป็นคนเปลี่ยนมุมที่จะมองเอง อ้อมว่าเราคงไม่ได้expectตั้งแต่ต้นแล้วว่าเราจะเห็นคนๆนั้นเหมือนเดิม คือยังไงก็รู้อยู่แล้วว่าจะต้องเห็นอะไรที่เปลี่ยนไปอ่ะค่ะ.. พิมพ์ไปอ้อมก็ชักจะเริ่มงงเหมือนกัน ^^;
น้องณัฐ :) เป็นเพลงประกอบละครเกาหลีเรื่อง Full House จ้ะ.. ตอนนี้เรากะลังฟังเพลงนี้อย่างextremeจนเกือบเปื่อยแล้ว ^^; ถ้าชอบมีเพลงให้ฟังพร้อมเนื้อที่linkข้างล่างนะ :)
Lee Bo Ram - chuh eum geu ja ri eh, Full House OST.
ถ้าเกิดเรามองด้วยมุมที่เปลี่ยนไป แต่เราไม่รู้ตัวล่ะว่าเราได้หมุนไปแล้ว อย่างนั้นคงแย่เนอะ เพราะมัวแต่ไปโทษคนอื่นว่าเค้าเปลี่ยน (เปลี่ยนล้อยางไปเลย หรือแค่หมุนเอาอีกด้านมา)
นั่นสิ งั้นเราก็ไม่ควรจะยึดติดอะไรใช่ไหม ถ้าการเปลี่ยนนั่นทำให้เราไม่ชอบใจ เราก็ลองคุยกันได้นี่ว่าอย่าหันด้านนี้มาบ่อยได้ไหม เราไม่ชอบ ไม่เห็นต้องไปหงุดหงิดเลยเนอะ ถ้าเกิดเรา Ignore ไม่ได้ แล้วเค้าก็เปลี่ยนหมุนเอาด้านนี้มาน้อยลงไม่ได้ คงต้องหาล้ออันใหม่เอามามองแล้วล่ะมั้ง :P
นั่นสิ งั้นเราก็ไม่ควรจะยึดติดอะไรใช่ไหม
ช่ายย
เราคิดว่า ถ้าเรามองว่าทุกอย่างมันต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้วโดยธรรมชาติ
เห็นบ่อยๆว่าเมื่อวานเป็นอย่าง วันนี้เป็นอย่าง พรุ่งนี้เป็นอีกอย่าง
แล้วเกิดความเข้าใจจริงๆว่าธรรมชาติมันเป็นอย่างนี้เอง.. มันก็น่าจะค่อยๆคลายความยึดติดได้นะ..
ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุเพราะเราเปลี่ยน หรือเค้าเปลี่ยน หรือสิ่งไหนเปลี่ยน.. มันก็คือความเปลี่ยนแปลงอ่ะ
ถ้ามองได้อย่างเป็นกลางว่ามันก็เปลี่ยนของมันตามธรรมชาติอย่างนั้นเอง ก็คงวางได้ไม่ยากมั๊ง..
เห็นด้วยกับที่น้องอ้อมสรุป "มองอย่างเป็นกลาง" สำหรับตัวพี่เองส่วนตัวอาจต้องเพิ่มเติมว่า มองอย่างเป็นกลางและไม่เอาอารมณ์ส่วนตัวไปปรุงแต่ง เพราะบางทีอดไม่ได้ที่จะเเอบคิดว่าทำไมไม่เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ (ยึดติดเกินไป) ถ้าทำได้อย่างนี้ คงมีใจที่เป็นสุข ho ho ho:P
ถ้าลอง คิดว่าเรากำลังเรียนรู้กับสิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เราจะเพียงแต่เข้าใจและยอมรับกับสิ่งที่มันเป็นมากขึ้นและไม่คิดว่ามันเปลี่ยนแปลง เพราะจิงๆเล้วมันเป็นของมันเองอยู่อย่างนั้น เพียงแต่เราไม่รู้เท่านั้นเอง ผมว่า มันคงดีกว่า หากเรารู้จัก มอง และเข้าใจในสิ่งที่มันเป็นจิง
จริงๆอาจจะมองอย่างนั้นได้นะคะ :)
อาจจะมองว่าเราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ คนต่างๆในหลายๆด้าน
ด้านนี้เราเห็นว่าเป็นอย่างนึงซึ่งเราพอใจ
แต่อีกด้านนึงเราอาจจะเป็นว่าเป็นอีกอย่างนึงซึ่งเราไม่พอใจ
เรียนรู้เข้าบ่อยๆ เข้าใจได้มากขึ้น เห็นความไม่เที่ยง ไม่น่ายึดถือมากขึ้นก็คงละวางไปได้เอง
แต่จริงๆแล้วคงจะบอกตัวเองยากนิดว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนะคะ เพราะสังเกตเอาเถอะค่ะ อ้อมไม่คิดว่าจะมีสิ่งไหนในโลกที่คงสภาพอยู่อย่างเดิมได้ตลอดกาล
Post a Comment